การตลาดผ่าน LINE Official Account (LINE OA) ยังคงเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการเข้าถึงลูกค้าโดยตรง แต่หลายคนอาจกำลังเผชิญกับปัญหา “ส่งข้อความได้ไม่ครบ” หรือ “ติดลิมิตการส่ง” โดยเฉพาะหลังจากการอัปเดตนโยบายล่าสุดของ LINE บทความนี้จะมาไขทุกข้อสงสัย พร้อมสอนวิธีตั้งค่าการส่งข้อความอย่างมืออาชีพ เพื่อให้คุณบรอดแคสต์หาลูกค้าได้เต็มประสิทธิภาพอีกครั้ง!
สำคัญ! อัปเดตล่าสุดจาก LINE: ข้อจำกัดใหม่สำหรับบัญชีโล่สีเทา
ตั้งแต่วันที่ 26 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป LINE ได้ปรับเปลี่ยนนโยบายการส่งข้อความสำหรับบัญชีที่ยังไม่ได้รับการรับรอง (โล่สีเทา) ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อการบรอดแคสต์หาลูกค้าจำนวนมาก โดยมีรายละเอียดดังนี้:
จำกัดการส่ง: สามารถส่งข้อความหาผู้ติดตามที่ ไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์ (ตอบกลับ) ภายใน 7 วัน ได้สูงสุดเพียง 200 ข้อความ/วัน เท่านั้น
ไม่จำกัด: สำหรับผู้ติดตามที่ยังคงพูดคุยหรือตอบกลับภายใน 7 วันล่าสุด คุณยังสามารถส่งข้อความหาได้ตามปกติ
ปัญหานี้ทำให้ร้านค้าหรือธุรกิจที่ต้องการส่งโปรโมชั่นหาลูกค้าเก่าทั้งหมด ทำได้ยากขึ้นอย่างมาก แล้วทางออกคืออะไร?
ทางออกคืออะไร? เปรียบเทียบชัดๆ ระหว่าง “โล่สีเทา” และ “โล่สีน้ำเงิน”
ทางออกที่ดีที่สุดในการปลดล็อกข้อจำกัดนี้ คือการอัปเกรดบัญชีของคุณให้เป็น “บัญชีรับรอง” (Verified Account) หรือที่เรียกกันว่า “โล่สีน้ำเงิน” มาดูความแตกต่างกันชัดๆ ครับ
คุณสมบัติ 🔘 บัญชีโล่สีเทา (Unverified) 🔵 บัญชีโล่สีน้ำเงิน (Verified)
การส่งข้อความ จำกัด 200 ข้อความ/วัน (ถึงคนที่ไม่ Active) ไม่จำกัดจำนวนคน
อัตราการส่ง/ชั่วโมง จำกัด 180 ข้อความ/ชั่วโมง (รวมทุกแอดมิน) จำกัด 180 ข้อความ/ชั่วโมง/ ต่อ 1 แอดมิน
คำแนะนำ เหมาะกับธุรกิจขนาดเล็กที่เน้นคุยตัวต่อตัว เหมาะกับธุรกิจที่ต้องการบรอดแคสต์หาลูกค้าจำนวนมาก
สรุป: หากคุณต้องการส่งข้อความหาผู้ติดตามทั้งหมดแบบไม่จำกัด การสมัคร “โล่สีน้ำเงิน” คือคำตอบ และหากต้องการส่งให้เร็วขึ้น คุณสามารถ “เพิ่มแอดมิน” เพื่อช่วยกันส่งได้ เพราะลิมิตการส่งจะแยกกันในแต่ละแอดมิน
ดูวิธีสมัครบัญชีรับรอง (โล่สีน้ำเงิน): [ลิงก์ไปยังวิธีสมัคร]
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมจาก LINE: [ลิงก์ไปยังประกาศของ LINE]
สอนใช้งาน: ขั้นตอนการส่งข้อความบรอดแคสต์ LINE OA อย่างมืออาชีพ
เมื่อคุณเข้าใจเรื่องข้อจำกัดและประเภทบัญชีแล้ว ต่อไปนี้คือขั้นตอนการตั้งค่าการส่งข้อความผ่านเครื่องมือช่วยบรอดแคสต์ เพื่อให้การทำงานของคุณง่ายและมีประสิทธิภาพสูงสุด
ขั้นตอนที่ 1: ตั้งค่าการส่ง (Setup Sender)
เลือกช่อง LINE OA ที่คุณต้องการใช้ในการส่งข้อความ
ยืนยันการใช้บัญชี (Account) ที่ Login อยู่ปัจจุบันในการเป็นผู้ส่ง
ขั้นตอนที่ 2: สร้างข้อความให้น่าสนใจ (Create Engaging Messages)
เลือกรูปแบบ: คุณสามารถเลือกส่งเฉพาะข้อความ, เฉพาะรูปภาพ/วิดีโอ หรือส่งทั้งสองอย่างควบคู่กันได้
แนบไฟล์มีเดีย: รองรับไฟล์ .jpg และ .mp4 สามารถเลือกได้ว่าจะให้รูปภาพ/วิดีโอแสดงก่อนหรือหลังข้อความ
เขียนข้อความโดนใจ: ใส่ข้อความโปรโมชั่นที่ต้องการ พร้อมใช้อีโมจิเพื่อเพิ่มความน่าสนใจ
สร้างความเฉพาะตัว (Personalization): ใช้ Tag พิเศษเพื่อดึงชื่อลูกค้ามาแสดงผลอัตโนมัติ ทำให้ลูกค้ารู้สึกพิเศษมากขึ้น
[[name]] = ชื่อ-นามสกุลเต็ม [[first_name]] = ชื่อ [[last_name]] = นามสกุลตัวอย่าง: “สวัสดีครับ [[first_name]]! 📣 เพจพร้อมไลฟ์สด+ยิงแอดได้ มาแล้ว!! 💰 ราคาเพียง 7,499 บาท สนใจทักด่วน!”
ขั้นตอนที่ 3: กำหนดกลุ่มเป้าหมาย (Define Your Target Audience)
สแกนข้อมูล: เลือกว่าจะให้ระบบสแกนรายชื่อผู้ติดตามทั้งหมดใหม่ หรือใช้ข้อมูลเดิม
กรองผู้รับ: คุณสามารถเลือก “ไม่กรอง ส่งทั้งหมด” หรือตั้งค่าเงื่อนไขเพื่อส่งหาลูกค้าเฉพาะกลุ่มได้
ขั้นตอนที่ 4: ตั้งเวลาและจัดการความเร็ว (Schedule & Manage Speed)
หน่วงเวลา (Delay): นี่คือฟีเจอร์สำคัญ! เพื่อป้องกันการส่งเร็วเกินจนผิดนโยบายของ LINE ควรตั้งค่าการหน่วงเวลาระหว่างข้อความ เช่น 25 วินาที ซึ่งจะช่วยควบคุมอัตราการส่งให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม (เช่น 144 ข้อความ/ชั่วโมง)
กำหนดคิว: สามารถระบุได้ว่าจะให้เริ่มส่งจากคนที่เท่าไหร่ ถึงคนที่เท่าไหร่
ตั้งเวลาล่วงหน้า: กำหนดวันที่และเวลาที่ต้องการให้ระบบเริ่มส่งข้อความได้เลย
ขั้นตอนที่ 5: ติดตามผลและดูรายงาน (Monitor & View Reports)
หลังจากกดเริ่มส่ง ระบบจะแสดงสถานะแบบเรียลไทม์ให้คุณเห็น เช่น:
แถบความคืบหน้า (Progress Bar)
จำนวนที่ส่ง ผ่าน / ไม่ผ่าน
รายงานผลการส่งรายบุคคล
ทำให้คุณสามารถตรวจสอบได้ทันทีว่าข้อความถูกส่งถึงลูกค้าสำเร็จหรือไม่ และสามารถ Export Report เพื่อนำข้อมูลไปวิเคราะห์ต่อได้
การทำความเข้าใจนโยบายใหม่ของ LINE OA และเลือกประเภทบัญชีให้เหมาะสมกับขนาดธุรกิจ (แนะนำ โล่สีน้ำเงิน สำหรับการบรอดแคสต์) คือกุญแจสำคัญในการทำการตลาดให้ประสบความสำเร็จ ประกอบกับการใช้เครื่องมือที่ช่วยจัดการการส่งข้อความได้อย่างเป็นระบบ ทั้งการตั้งค่าข้อความส่วนตัว, การหน่วงเวลา และการดูรายงาน จะช่วยให้คุณเข้าถึงลูกค้าได้อย่างเต็มศักยภาพและไม่พลาดทุกโอกาสในการขายอีกต่อไป

